ads 728x90

คาใจเหลือเกิน! ทำไมรถเราถึงมีรอยเยอะจัง? เคล็ดลับง่ายๆ ป้องกันรอยขีดข่วนที่ใครๆ ก็ทำได้

วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2568

คาใจเหลือเกิน! ทำไมรถเราถึงมีรอยเยอะจัง? เคล็ดลับง่ายๆ ป้องกันรอยขีดข่วนที่ใครๆ ก็ทำได้

เคยสังเกตไหมคะว่าทำไมรถบางคันถึงดูใหม่กริบอยู่เสมอ ทั้งที่ใช้งานมานานแล้ว นั่นอาจเป็นเพราะเจ้าของรถดูแลรักษาอย่างดีเยี่ยมเลยล่ะค่ะ การที่รถมีรอยขีดข่วนบ่อยๆ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุที่เราคาดไม่ถึงเลยนะ

  • จอดรถไม่ระวัง: การจอดรถชิดเกินไป เบียดเสาไฟฟ้า หรือจอดในที่แคบๆ ทำให้มีโอกาสเฉี่ยวชนได้ง่ายมากๆ เลยค่ะ
  • โดนเศษหินกระเด็น: เวลาขับรถบนถนนลูกรัง หรือตามหลังรถบรรทุกหนักๆ เศษหินเล็กๆ อาจกระเด็นมาโดนรถ ทำให้เกิดรอยได้
  • ล้างรถไม่ถูกวิธี: การใช้ผ้าหยาบๆ ล้างรถ หรือเช็ดรถตอนมีฝุ่นเกาะแน่นๆ ก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดรอยขนแมวได้เลยค่ะ
  • สิ่งแวดล้อม: ยางไม้ มูลนก หรือแม้แต่ขี้นก ก็สามารถทำลายชั้นเคลือบสีรถได้ ถ้ารีบเช็ดออกไม่ทันก็อาจทิ้งรอยด่างไว้ได้ค่ะ
  • อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด: ถึงแม้จะขับรถระวังแค่ไหน แต่บางครั้งอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้เสมอ เช่น การโดนรถคันอื่นมาเฉี่ยวชน หรือรถถูกงัดแงะ

ป้องกันไว้ดีกว่าแก้! การดูแลรักษารถไม่ให้มีรอยนั้นไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ แค่เราใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน:

 

  1. เลือกที่จอดรถที่ปลอดภัย: พยายามจอดรถในที่ร่ม มีหลังคา และห่างจากบริเวณที่มีโอกาสเกิดการขีดข่วน เช่น ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือใกล้ถังขยะ
  2. ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง: รักษาความเร็วที่เหมาะสม และรักษาระยะห่างจากรถคันอื่น โดยเฉพาะรถบรรทุก
  3. ล้างรถอย่างถูกวิธี: ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างรถโดยเฉพาะ เลือกฟองน้ำหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ที่นุ่ม และล้างรถเป็นประจำเพื่อขจัดสิ่งสกปรก
  4. เคลือบสีรถ: การเคลือบสีรถเป็นประจำจะช่วยสร้างชั้นฟิล์มป้องกันรอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ และทำให้รถดูเงางามอยู่เสมอ
  5. ติดฟิล์มกันรอย: สำหรับบางจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดรอยบ่อยๆ เช่น มือจับประตู หรือขอบประตู การติดฟิล์มกันรอยก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีค่ะ

“แก…รถฉันมีรอยเต็มเลย แบบนี้จะขายออกได้ไหมเนี่ย?” เสียงกังวลใจของเพื่อนสาวดังขึ้นเมื่อเธอถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางลูบไล้รอยขีดข่วนยาวบนประตูรถ เราทุกคนต่างเข้าใจดีว่ารอยเล็กๆ น้อยๆ บนรถยนต์มันช่างกวนใจเหลือเกิน ยิ่งถ้าคิดจะขายรถคันโปรดออกไปแล้ว ยิ่งกังวลว่ารอยเหล่านี้จะทำให้ราคาตกฮวบหรือเปล่า

 

รับซื้อรถมือสอง แบบไหนถึงจะ “รับ” รถเราไปดูแลต่อคะ?

เมื่อตัดสินใจจะขายรถที่มีรอยแล้ว สิ่งสำคัญคือการเลือกร้าน รับซื้อรถมือสอง ที่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ทุกร้านจะรับซื้อรถมือสอง ทุกคัน เพราะแต่ละร้านก็มีนโยบายและประเภทรถที่ต้องการแตกต่างกันไป

โดยทั่วไปแล้ว ร้าน รับซื้อรถมือสอง จะพิจารณารถของคุณจากหลายปัจจัย นอกเหนือจากสภาพรอยขีดข่วน:

  • สภาพโดยรวมของรถ: นอกจากรอยภายนอกแล้ว สภาพเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ระบบไฟฟ้า ภายในห้องโดยสาร และการทำงานของฟังก์ชันต่างๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน รถที่ได้รับการดูแลรักษาดี มีประวัติการเข้าศูนย์บริการสม่ำเสมอ ย่อมได้เปรียบกว่า
  • ปีและรุ่นของรถ: รถรุ่นใหม่ๆ หรือรุ่นที่เป็นที่นิยมในตลาดมือสอง มักจะมีราคาดีและขายง่ายกว่า
  • เลขไมล์: เลขไมล์ที่น้อยกว่า ย่อมแสดงถึงการใช้งานที่น้อยกว่า ซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อ
  • ประวัติการชน: แม้ว่าจะมีรอยขีดข่วน แต่ถ้ารถไม่เคยมีประวัติการชนหนัก หรือไม่มีการตัดต่อโครงสร้าง ย่อมได้รับความสนใจมากกว่า
  • เอกสารครบถ้วน: เล่มทะเบียนรถ คู่มือรถ กุญแจสำรอง และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ควรเตรียมให้พร้อมและถูกต้อง

แล้วร้านแบบไหนที่มักจะรับซื้อรถมีรอยบ้างล่ะ?

  1. เต็นท์รถมือสองทั่วไป: เต็นท์ส่วนใหญ่จะรับซื้อรถที่มีรอยเล็กน้อยถึงปานกลาง เพราะพวกเขามีทีมช่างที่สามารถเก็บรายละเอียดหรือซ่อมแซมได้ เพื่อนำไปปรับปรุงสภาพและขายต่อ
  2. บริษัทประมูลรถยนต์: บริษัทประมูลจะประเมินราคาตามสภาพจริงของรถ และนำออกประมูล ผู้ซื้อจะได้เห็นสภาพรถตามจริงก่อนการประมูล ซึ่งก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่รถมีรอยสามารถขายออกได้
  3. ผู้ซื้อรายย่อยที่รับซื้อไปใช้งานเอง: บางคนไม่ได้ซีเรียสเรื่องรอยมากนัก ขอแค่รถอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี และราคาถูกลง ก็อาจจะตัดสินใจซื้อไปซ่อมแซมเอง หรือนำไปใช้งานในลักษณะที่ไม่ได้เน้นความสวยงามมากนัก
  4. Car Remarketing Services: บางบริษัทจะเน้นการ รับซื้อรถมือสอง ที่ต้องการการปรับปรุงสภาพ เพื่อนำไปปรับปรุงและส่งต่อไปยังผู้ซื้อรายอื่น หรือขายผ่านช่องทางของตนเอง

สิ่งสำคัญที่สุดคือการ “เปิดเผยทุกอย่างตามความเป็นจริง” ค่ะ อย่าพยายามปกปิดข้อมูลหรือร่องรอยใดๆ เพราะผู้ รับซื้อรถมือสอง ที่เป็นมืออาชีพย่อมมีวิธีการตรวจสอบอย่างละเอียด การบอกเล่าสภาพรถตามจริงจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และทำให้กระบวนการซื้อขายเป็นไปอย่างราบรื่นและยุติธรรมสำหรับทั้งสองฝ่ายค่ะ การเตรียมรถให้สะอาดทั้งภายในและภายนอก ถ่ายรูปให้เห็นรอยชัดเจน และให้ข้อมูลที่ครบถ้วน จะช่วยให้คุณขายรถได้ง่ายขึ้นและได้ราคาที่คุณพอใจค่ะ

 

คำตอบก็คือ…ขายได้แน่นอนค่ะ! ไม่ว่าจะเป็นรอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ จากการใช้งานทั่วไป รอยเฉี่ยวชนที่ไม่รุนแรง หรือแม้แต่รอยบุบที่ดูเป็นปัญหาใหญ่กว่า รอยเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่ารถของคุณจะหมดค่าไปเสียทีเดียวค่ะ ตลาดรับซื้อรถมือสอง ยังคงเปิดกว้างสำหรับรถที่มีรอย เพียงแต่ว่ารอยเหล่านั้นจะส่งผลต่อราคามากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับชนิดของรอย ตำแหน่ง ขนาด และความเสียหายโดยรวมของรถ

บางทีรอยเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานปกติ อาจไม่ส่งผลกระทบต่อราคามากนัก เพราะผู้รับซื้อรถมือสอง หลายรายเข้าใจดีว่ารถยนต์คือยานพาหนะที่ต้องผ่านการใช้งาน และรอยเหล่านี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้ารอยนั้นใหญ่ ลึก หรือส่งผลต่อโครงสร้างรถ เช่น รอยบุบขนาดใหญ่ที่เสาประตู หรือรอยที่เกิดจากอุบัติเหตุรุนแรงที่ทำให้โครงสร้างบิดเบี้ยวไป กรณีแบบนี้แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อราคาขาย หรืออาจทำให้การขายยากขึ้น

 

สิ่งสำคัญคือการเปิดเผยข้อมูลตามความเป็นจริงค่ะ อย่าพยายามปกปิดร่องรอยต่างๆ เพราะผู้รับซื้อรถมือสอง มืออาชีพย่อมมีการตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียด และการปกปิดข้อมูลอาจส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของคุณได้ การพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกันและตกลงซื้อขายกันได้อย่างสบายใจกว่าค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 

ผู้สนับสนุน

Most Reading