รับซื้อรถกระบะ: อุปกรณ์แต่งมีผลต่อราคามือสองอย่างไร? เจาะลึกจากประสบการณ์ตรง
สมัยผมยังหนุ่ม รถกระบะมันเป็นแค่รถใช้งาน บรรทุกของ ลุยงาน ไม่ได้คิดอะไรมากเรื่องความสวยงามหรือของแต่ง แต่พอเวลาผ่านไป โลกมันก็เปลี่ยน รถกระบะสมัยนี้กลายเป็นยานพาหนะคู่ใจของหลายคน ไม่ใช่แค่เพื่อการงาน แต่เพื่อไลฟ์สไตล์ด้วย อุปกรณ์เสริมต่างๆ ก็ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด ใครๆ ก็อยากแต่งรถตัวเองให้โดดเด่น ไม่เหมือนใคร
แต่สิ่งที่หลายคนมองข้ามไป หรืออาจจะยังไม่ทันคิด ก็คือไอ้ของแต่งพวกนี้นี่แหละครับ มันมีทั้งคุณและโทษ โดยเฉพาะตอนที่เราคิดจะขายรถคันโปรดออกไปแล้วมองหาที่ รับซื้อรถกระบะ ปัญหาโลกแตกที่ผมเจอมาตลอดหลายสิบปีในวงการนี้คือ "ของแต่งเยอะๆ เนี่ย มันช่วยเพิ่มราคาให้รถได้จริงหรือเปล่า?" วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังแบบคนเคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เผื่อเป็นบทเรียนให้หลายคนได้นำไปคิดต่อยอด
อุปกรณ์เสริมแต่ละชนิด: ดาบสองคมของราคารถกระบะมือสอง
จากประสบการณ์ที่คลุกคลีกับการ รับซื้อรถกระบะ มานาน ผมบอกเลยว่าอุปกรณ์เสริมแต่ละอย่างมันมีคาแรคเตอร์ของมันเอง บางอย่างช่วยส่งเสริม บางอย่างฉุดรั้ง ราคารถมือสอง ลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ
-
ฝาครอบกระบะท้าย (Canopy/Roller Lid): ถ้าเป็นแบบมาตรฐานทั่วไปที่สภาพดี ใช้งานได้สมบูรณ์ อันนี้พอจะช่วยเพิ่มมูลค่าได้บ้าง เพราะมันเพิ่มประโยชน์ใช้สอย แต่ถ้าเป็นแบบที่ดัดแปลงมาพิเศษ หรือสภาพทรุดโทรม อันนี้จะกลายเป็นภาระทันที
-
ล้อแม็กและยาง: ล้อแม็กสวยๆ ขนาดยอดนิยมที่คนส่วนใหญ่ชอบ และยางที่ดอกยังเต็ม อาจจะช่วยให้รถดูดีขึ้น ดึงดูดสายตาได้ แต่ถ้าเป็นล้อประหลาดๆ หรือขนาดยางที่โอเวอร์เกินไป อันนี้บอกเลยว่า "ทำใจ" เพราะคนซื้อต่อมักจะคิดค่าเปลี่ยนออกไปอยู่แล้ว
-
ช่วงล่างและระบบกันสะเทือน: ชุดยกสูง ยกหน้ายกหลัง หรือชุดโช้คอัพแต่ง ถ้าทำมาดีจากสำนักแต่งที่มีชื่อเสียง มีเอกสารรับรองว่าถูกต้องตามกฎหมาย และสภาพยังสมบูรณ์ อันนี้ถือเป็นจุดเด่นได้ แต่ถ้าทำมาแบบตามมีตามเกิด ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะทำให้รถเสียสมดุล ขับขี่ไม่ดี แบบนี้ถือว่า "ติดลบ" ทันทีครับ
-
อุปกรณ์เสริมภายใน: จอเครื่องเสียง ลำโพงแต่ง ถ้าเป็นชุดที่ถอดง่าย ไม่ได้ดัดแปลงโครงสร้างมากนัก ก็อาจจะพอคุยกันได้ แต่ถ้าถึงขั้นรื้อคอนโซล เดินสายไฟใหม่หมด บางทีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตีราคาเพิ่ม
-
ชุดแต่งรอบคันและสติกเกอร์: อันนี้แหละครับที่เป็นปัญหาใหญ่สุด เพราะมันเป็นเรื่องของ "รสนิยม" ส่วนบุคคลอย่างแท้จริง ชุดแต่งที่บางคนชอบ แต่อีกคนอาจจะเกลียด หรือสติกเกอร์ที่ติดมาเต็มคัน พอจะขายต่อ คน รับซื้อรถกระบะ เค้าต้องคิดค่าถอด ค่าลอก ค่าขัดสีอยู่แล้ว
ทำไมอุปกรณ์เสริมบางอย่างถึง "กินทุน" เวลาขายต่อ?
ผมเห็นมาเยอะแล้วครับ คนที่ทุ่มเงินแต่งรถไปเยอะ พอถึงเวลาต้องขายต่อแล้วมาบ่นว่า "ทำไมราคาตกกว่าที่คิด?" หลักๆ เลยมันมาจากหลายเหตุผลครับ
หนึ่งคือ "ความเฉพาะตัว" ของของแต่ง ยิ่งแต่งมากเท่าไหร่ รถคันนั้นก็ยิ่งเป็นของคุณคนเดียวมากเท่านั้น และเมื่อมันเป็นของคุณคนเดียว มันก็ยากที่จะหาคนที่ชอบเหมือนคุณเป๊ะๆ ยิ่งหายาก คน รับซื้อรถกระบะ เขาก็ต้องตั้งราคาให้มีส่วนเผื่อไว้มากหน่อย เพื่อเอาไปปรับปรุงให้ตรงกับตลาด
สองคือ "การเสื่อมสภาพ" ของอุปกรณ์เสริมเอง บางทีของแต่งราคาแพงก็เสื่อมสภาพเร็วกว่าตัวรถ เช่น เครื่องเสียงเก่าๆ จอทัชสกรีนที่เริ่มรวน หรือช่วงล่างที่ผ่านการใช้งานหนัก แบบนี้ก็ต้องหักค่าเสื่อมออกไปอีก
สามคือ "เรื่องกฎหมาย" รถบางคันแต่งเกินกฎหมายกำหนด เช่น โหลดเตี้ยเกินไป ยกสูงเกินไป ไฟหน้าดัดแปลง แบบนี้การจะโอนเปลี่ยนมือก็ยุ่งยาก คน รับซื้อรถกระบะ เขาก็ไม่อยากเสี่ยง
อุปกรณ์เสริมแบบไหนที่เพิ่มมูลค่า หรือรักษาราคา 'รับซื้อรถกระบะ' ได้ดี?
ใช่ว่าของแต่งทุกอย่างจะทำให้ ราคารถมือสอง ตกไปซะหมดนะครับ ของที่เพิ่มมูลค่าก็มีอยู่เหมือนกัน
-
อุปกรณ์มาตรฐานจากศูนย์: อันนี้แน่นอนที่สุดครับ เช่น บันไดข้าง กันชนหลังโรลบาร์ที่มาจากโรงงาน หรือฝาครอบกระบะท้ายที่มาพร้อมรถตั้งแต่แรก ถ้าสภาพดี ยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือ
-
อุปกรณ์ที่เพิ่มความปลอดภัย: กล้องมองหลัง เซ็นเซอร์ถอยจอด (ถ้าไม่ได้มากับรถ) หรือระบบนำทางที่มีประโยชน์ พวกนี้เป็นของที่คนส่วนใหญ่ต้องการ
-
การบำรุงรักษาอย่างดี: แม้จะไม่ใช่ของแต่ง แต่การดูแลรักษารถให้ดีอยู่เสมอ ทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ภายในภายนอก นี่แหละครับคือ "ของแต่ง" ที่มีค่าที่สุด มันแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของเจ้าของ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คน รับซื้อรถกระบะ กล้าให้ราคาดี
เคล็ดลับจากคนขายรถเก่า: เตรียมรถกระบะของคุณให้พร้อมก่อน 'รับซื้อรถกระบะ'
จากประสบการณ์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน ผมมีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้คุณได้ราคาดีขึ้นตอนขายรถกระบะมือสอง
อันดับแรกคือ "ทำความสะอาด" ครับ รถที่ดูสะอาดสะอ้าน ทั้งภายนอก ภายในห้องเครื่อง และใต้ท้องรถ มันสร้างความประทับใจแรกได้ดีมากๆ เหมือนเราแต่งตัวไปสัมภาษณ์งานนั่นแหละครับ
สองคือ "คืนสภาพเดิมให้มากที่สุด" ถ้าเป็นไปได้ อุปกรณ์เสริมที่ถอดได้ง่าย และไม่ใช่ของจำเป็น ลองถอดออกดูครับ หรือถ้ามีอะไหล่เดิมเก็บไว้ เช่น ล้อเดิม โช้คเดิม ก็ลองพิจารณาใส่คืนดู อาจจะทำให้คน รับซื้อรถกระบะ ตัดสินใจง่ายขึ้น
สามคือ "จัดการเอกสารให้พร้อม" สมุดคู่มือการเข้ารับบริการ ใบเสร็จการซ่อมบำรุง หรือเอกสารของอุปกรณ์เสริมบางตัวที่มีใบรับประกัน เก็บไว้ให้ดี มันคือหลักฐานที่แสดงถึงประวัติการดูแลรถของคุณ
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกว่าการตัดสินใจแต่งรถเป็นเรื่องส่วนตัวครับ ถ้าแต่งแล้วมีความสุข ใช้งานได้เต็มที่ มันก็คุ้มค่า แต่ถ้าวันหนึ่งต้องขาย ลองย้อนกลับมาคิดดูว่าสิ่งที่แต่งไป มันเพิ่มมูลค่า หรือลดมูลค่าในสายตาของคน รับซื้อรถกระบะ ในตลาดมือสองกันแน่ การเข้าใจหลักการตรงนี้ จะช่วยให้คุณวางแผนได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแต่งรถ หรือการเตรียมตัวเพื่อขายต่อในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น